บันทึกอนุทิน ครั้งที่11
วัน อังคาร ที่ 21 เมษายน พ.ศ.2558
วันนี้อาจารย์ได้แจกสีไม้ Colleen คนละ 1 กล่อง 24 สี และมีกิจกรรมสนุกสนุกๆมาให้เล่นคลายเครียดคือกิจกรรมแบบทดสอบเกมทายใจกระโดดร่ม และกิจกรรมหลังการเรียนคือ ระดมความคิดในการเขียนแผนIEP
แบบทดสอบเกมทายใจกระโดดร่ม
ความรู้ที่ได้รับ
โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized Education Program)
แผน IEP
- แผนการศึกษาที่ร่างขึ้น
- เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการช่วยเหลือฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา
- จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
- ระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผนและวิธีการวัดประเมินผลเด็ก
การเขียนแผน IEP
- คัดแยกเด็กพิเศษ
- ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร
- ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะได้ทราบว่าให้เริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด
- ต้องรู้ว่า เด็กทำอะไรได้ และ เด็กทำอะไรไม่ได้ แล้วจึงเริ่มเขียนแผนIEP
IEP ประกอบด้วย
- เป้าหมายระยะยาวประจำปี / ระยะสั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการออกแบบในการสอนเด็ก
- ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก
- ระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง
- ระบุความสามารถของเด็กในขณะปัจจุบัน
- ระบุ วัน เดือน ปี ที่เริ่มทำการสอน และคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน
- วิธีการประเมิน
ประโยชน์ต่อเด็ก
- ได้เรียนรู้ตามความสามารถของตนเอง
- ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน
- ได้รับการศึกษาเเละฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
- ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ
ประโยชน์ต่อครู
- เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
- เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
- ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
- เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาความก้าวหน้าของเด็ก
- ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
- มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
- ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
- เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดระหว่างบ้านกับโรงเรียน
ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล
1. การรวบรวมข้อมูล
- รายงานทางการแพทย์
- รายงานการประเมินด้านต่างๆ
- บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
- กำหนดจุดมุ่งหมายระยะยาวและระยะสั้น
- กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
- จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
- ระยะยาว
- ระยะสั้น
- กำหนดให้ชัดเจน แม้จะกว้าง เช่น น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้ น้องดาวร่วมมือกับผู้ปกครองได้ดีขึ้น น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้
จุดมุ่งหมายระยะสั้น
- ตั้งให้อยู่ภายใต้จุดมุ่งหมายหลัก เช่น การช่วยเหลือตนเองกำหนด (การเข้าห้องน้ำด้วยตนเอง) (กินข้าวด้วยตนเอง)
- เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์
- จุดมุ่งหมายระยะสั้นต้องมี 4 ข้อนี้ คือ
- จะสอนใคร
- พฤติกรรมอะไร
- เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
- พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน
ตัวอย่าง เช่น
1.
- ใคร อรุณ............................. (บรรยายยาวไปเรื่อยๆ)
- อะไร กระโดดเชือกขาเดียวได้
- เมื่อไหร่/ที่ไหน กิจกรรมกลางแจ้ง
- ดีขนาดไหน กระโดดได้ขาละ 5 ครั้ง ภายใน 30 วินาที
2.
- ใคร ธนภรณ์.......................................
- อะไร นั่งเงียบๆโดยไม่พูด
- เมื่อไหร/ที่ไหน ระหว่างครูเล่านิทาน
- ดีขนาดไหน ช่วงเวลาการเล่นนิทาน 10-15 นาทีเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน
การใช้แผน
- เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น
- นำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
- แยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก
- จัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
- ต้องมีการสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถโดยคำนึงถึง
- ขั้นตอนพัฒนาการของเด็ก
- ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
- อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4.การประเมินผล
- จะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
- ต้องกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์วัดผล
**การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน
กิจกรรม
อาจารย์ให้จับกลุ่มกัน 5 คนแล้วเลือกคนใดคนหนึ่งที่จะให้เป็นเด็กพิเศษประเภทใดก็ได้ แล้วร่วมกันระดมความคิดในการเขียนแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล
ตัวอย่าง
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
ตัวอย่างการเขียนแผนIEP
แผนของกลุ่มเรา
การนำไปประยุกต์ใช้
- ได้รู้หลักการ และเข้าใจมากขึ้นในการเขียนแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลได้ถูกต้อง
- สามารถเขียนแผนแบบระยะสั้น และระยะยาวได้ เพื่อนำไปใช้กับเด็กได้อย่างเหมาะสม
- ทำให้เรารู้จักเด็กมากขึ้น รู้ว่าจะนำแผนไปใช้กับเด็กอย่างไร และจัดการเรียนการสอนได้เหมาะสมกับความสามารถของเด็กได้
- ทำให้รู้ว่าการเขียนแผนIEP ต้องมีการรวบรวมความรู้จากที่ใดบ้าง เช่น จากแพทย์ประจำตัวเด็ก จากรายงานประเมินต่างๆของเด็ก จากครู ผู้ปกครอง และเมื่อมีการนำแผนไปใช้ครูต้องประชุมกับผู้ปกครองให้รับทราบด้วย
- แผนIEP สามารถบ่งบอกได้ว่าเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะได้จัดการเรียนการสอนที่เป็นขั้นตอนตามแผนเราก็จะพัฒนาเด็กได้ตามจุดประสงค์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
การประเมิน
การประเมินตนเอง เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เตรียมเอกสารในการเรียนมาพร้อม จดบันทึกเนื้อหาต่างๆที่อาจารย์สอนเพิ่มเติม ตั้งใจทำงานกลุ่มและให้ความร่วมมือกับเพื่อนเพื่อเป็นตัวแทนให้เพื่อนใช้เป็นตัวอย่างในการเขียนแผนIEP บรรยากาศในการทำงานกลุ่มสนุกสนานได้ร่วมมือกับเพื่อนๆคนอื่นๆที่ยังไม่เคยทำงานกลุ่มเดียวกันด้วย
ประเมินเพื่อน เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็เข้าเรียนตรงต่อเวลา มีน้อยมากที่เข้าเรียนสายนิดหน่อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอนบางคนก็มีจดบันทึกเนื้อหาระหว่างเรียน แต่งกายถูกระเบียบทุกคน ได้แสดงความคิดเห็นและโต้ตอบกับครูระหว่างที่สอน ให้ความร่วมมือในการทำงานกลุ่มอย่างราบรื่นด้วยดี
ประเมินอาจารย์ เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ มีวิธีสอนที่เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆได้ดีนักศึกษาเข้าใจมากขึ้น ใส่ใจกับการเรียนการสอนเพราะเมื่อไหร่ที่อาจารย์มอบหมายงานให้ทำอาจารย์จะเดินดูและให้คำปรึกษาจนเข้าใจทุกคน มีการวางแผนในการสอนเสมอนัดตารางเรียนชดเชยให้นักศึกษาทราบโดยทั่วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น